เมื่อหนึ่งปีที่แล้วมีข่าวกันกับวง CEO Forex3D ต้องหาในคดีอภิมหาแชร์ลูกโซ่ 4 หมื่นล้านที่หลบหนีมากว่า2 ปีเป็นคดีที่ยาวนานมาก สำหรับใครที่ลืมไปแล้ว วันนี้เราจะพาไปย้อนรายละเอียดเก่าๆมาให้อ่านกันอีก 1 รอบค่ะ

Forex คืออะไร มาจากคำว่า Foreign Exchange Market ตลาดการซื้อขายเงินตราต่างประเทศ ทุกคนรู้กันใช่ไหมคะว่า ค่าเงินของแต่ละวันไม่เท่ากัน ที่เขามีคำว่าค่าเงินบาทแข็งตัวค่าเงินบาทอ่อนตัว เป็นเพราะว่าค่าเงินแต่ละวันผันผวนไม่เท่ากัน เพราะฉะนั้นForex3Dก็คือ การซื้อสกุลเงิน สกุลหนึ่งในราคาที่ถูก แล้วเราคาดเดาว่าในอนาคตสกุลนี้นั้นราคามันจะต้องขึ้นแน่นอน พอราคามันขึ้นก็ขายไป เราก็จะได้กำไรเป็นเงินกลับมา สรุปง่ายๆก็คือเป็นการเกร็งกำไรกับค่าเงินนั้น เป็นตลาดการเงินที่ใหญ่ ให้กำไรสูงมากแต่ความเสี่ยงก็สูงมากเหมือนกัน ในการลงทุนที่ต้องใช้ความรู้ความเข้าใจในการผันผวนของค่าเงินเป็นอย่างดี คนที่หมดตัวจากการเล่นForex3D โดยที่ไม่ได้โดนโกง ก็มีตัวอย่างให้เห็นอยู่เยอะไปนะคะ

Forex3D เป็นชื่อของโบรคเกอร์ที่ช่วยในการเทรดForex คำว่าโบรคเกอร์ หมายถึง คนที่เอาเงินของเราไปลงทุนให้ เขาจะได้ค่าตอบแทนเป็น% จากเงินที่เราลงทุนไป เปรียบเสมือนคนที่ทำงานเป็นอาชีพ เพราะฉะนั้นเขาก็จะมีทั้งเวลาความรู้ความสามารถมากกว่า การลงทุนผ่านโบรคเกอร์ก็เป็นอะไรที่ปลอดภัยในหนึ่งระดับเมื่อเทียบกับการที่เราลงทุนเองโดยที่ไม่มีความรู้

จุดเริ่มต้นของเหตุการณ์

ตั้งแต่ปี 2558 CEO Forexไปทำการระดมทุมในพันทิปโดยที่บอกว่าตัวเองเป็นคนที่มีความสามารถมากๆในการเทรดForex ก็สามารถทำกำไรได้เดือน 5-20%ต่อเดือน

ต่อมาในปี 2560 ได้มีการเปิดตัวขึ้นอย่างเป็นทางการ โดยอ้างว่ามีทีมงานช่วยเทรดForex ที่เก่งที่สุดในโลก สามารถคำนวณตลาดค่าเงินได้อย่างแม่นยำ และForex3Dก็ดำเนินการต่อไปเรื่อยๆทุกคนก็ค่าตอบแทนตามที่บริษัทสัญญาไว้ ตอนนี้ชีวิตของCEO ดูหรูหรามาก หลังจากดำเนินกิจการไปได้ซักพัก ในช่วงต้นปี2562 มีนักลงทุนบางส่วนไม่สามารถถอนเงินออกมาได้ จนกระทั่งกลางปีก็ไม่มีใครถอนเงินได้อีกเลย ในตอนนั้นCEOอ้างว่าไม่สามารถเอาเงินออกมาได้ เพราะติดธนาคารแห่งชาติ จากนั้นระบบก็ใช้ได้อีกครั้ง แต่เป็นการถอนได้บางคน ผู้เสียหายจึงรวมตัวกันแจ้งความ แต่ถัดมาในเดือน ตุลาคม ปี2562 CEOก็ปิดกิจการไปสิงค์โปร์อ้างว่าไปทำธุรกรรมที่สิงค์โปร์ จนกระทั่งวันที่ 19 พฤศจิกายน 2563 Forex3D ก็ประกาศว่ายุติการให้บริการทุกอย่าง มูลค่าความเสียหายตอนนั้นอยู่ที่ 1,900 ล้าน ผู้เสียหาย 8,500 คน คุณ จ๊ะ อาร์สยามเองก็เป็น1ในผู้เสียหาย

ประเด็นต่อมาที่น่าสนใจ พบว่าCEO คนนี้มีความเกี่ยวข้องกับดาราหลายคนมากเลย โดยเฉพาะ ดีเจแมนและใบเตย เพราะมีรูปถ่ายตอนร่วมประชุมกับCEO พอการโกงเป็นข่าว แต่สุดท้ายก็ตั้งโต๊ะแถลงว่า ตนก็คือผู้เสียหายเหมือนกัน  

และสุดท้ายข่าวนี้ก็กลับมาดังอีกครั้งในปี 2565 เมื่อศาลไม่ให้ประกันตัว พี่ชาย,พิ้งกี้ดารานักแสดงและคุณแม่ด้วยถูกตกเป็นผู้ต้องหา ความผิดคือ 1.ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน 2.ร่วมกันนำข้อมูลอันเป็นเท็จ 3.ร่วมกันนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ เป็นคดีอาญาอย่างหนักงานนี้มีผู้เสียหาย 9,824 ราย รวมมูลค่าความเสียหาย 2,489,820,321.52 บาทค่ะ

เครดิต : NailName

#ดราม่า #Forex3D #ข่าวบันเทิง