Categories
ข่าวบันเทิงดารา

แนะนำเพลงยุค 90 เพลงในตำนานสุดฮิต

ไม่ว่าคุณจะเกิดก่อนหรือเกิดหลังก็สามารถฟังเพลงยุค 90 ได้ เพราะแต่ละเพลงบอกเลยว่าคุณจะได้สัมผัสกลิ่นกลิ่นอายของตัวโน้ตเมโลดี้ที่ไม่เน้นออโต้จูนเหมือนเพลงในยุคปัจจุบัน เหมือนได้พาตัวเองกลับเข้าไปสู่ความเป็นยุค 90 ให้ได้ลำลึกความหลังกันอีกครั้ง และแน่นอนว่าปัจจุบันนี้เพลงส่วนใหญ่จะเน้นการปรับออโต้จูนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด วันนี้เราจึงมีเพลงสุดฮิตยุค 90 มาแนะนำกันค่ะ ไปดูกันเลยว่ามีเพลงไหนบ้าง 

1.ยาม 

วงเพลงร็อคในตำนานที่ยังคงเป็นวงสุดฮิตจนมาถึงปัจจุบันกับวงลาบานูน ที่ไม่ว่าจะออกมากี่ผลงานเพลงก็ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม ด้วยเนื้อหาของเพลงที่กินใจ เข้าใจง่าย ทำให้หลายคนชื่นชอบ และสามารถร้องตามได้ง่ายๆเลย เพราะเนื้อหาของเพลงไม่ซับซ้อน ไม่น่าเบื่อ ดนตรีสนุก ฟังได้เพลินๆทั้งวัน ซึ่งเพลงนี้ก็เป็นอีกเพลงที่ความหมายของเพลงเข้าใจง่าย ติดหู แถมดนตรีก็สนุก เป็นอีกเพลงที่อยากแนะนำเลย 

2.จักรยานสีแดง 

เรียกว่าเป็นนักร้องที่สร้างผลงานเพลงให้กลายเป็นเพลงยอดฮิตได้ทุกเพลงจริงๆ ซึ่งเพลงนี้ก็เป็นอีกเพลงที่สร้างปรากฏการณ์เพลงสุดฮิตทั่วบ้านทั่วเมืองเลยทีเดียว ด้วยจังหวะสุดเร้าใจทำให้หลายคนชื่นชอบ ถือเป็นเพลงที่มีความเก๋ เนื้อหาค่อนข้างดี และด้วยเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ทำให้กลายเป็นเพลงที่หลายคนชื่นชอบจนมาถึงยุคปัจจุบัน ใครชอบเพลงที่สนุกเร้าใจและยังคงความเป็นยุค 90 ไว้ได้ ต้องเพลงนี้เลย

3.ฤดูที่แตกต่าง

ด้วยเสียงที่นุ่มนวล ไพเราะ และน่าฟัง ทำให้เพลงนี้กลายเป็นเพลงที่อบอุ่น ฟังสบาย แถมยังเป็นเพลงที่ฟังแล้วทำให้มีกำลังใจในการใช้ชีวิตมากขึ้น อดทนให้มากขึ้น และใช้ชีวิตเพื่อรอดูความสำเร็จในวันข้างหน้า ยิ่งใครที่กำลังรู้สึกท้อแท้หรือสิ้นหวัง แนะนำเลยว่าถ้าได้ฟังเพลงนี้จะทำให้รู้สึกดีขึ้นแน่นอน ช่วยทำให้จิตใจดีขึ้นได้มากจริงๆ

4.ทะเลใจ 

เพลงเพื่อชีวิตจากคาราบาวไม่เคยทำให้ทุกคนผิดหวัง ด้วยเนื้อหาของเพลงที่ฟังแล้วช่วยให้ผ่อนคลาย อารมณ์ดีมากขึ้น แถมยังช่วยสร้างกำลังใจได้เป็นอย่างดี ถึงแม้ว่าดนตรีจะมีความเศร้าหรือฟังแล้วรู้สึกเหงา แต่ถือเป็นเพลงที่

ฟังแล้วช่วยให้รู้สึกดีขึ้นแน่นอน ทำให้มีกำลังใจอยากลุกขึ้นสู้ต่อไปได้ หากกำลังรู้สึกท้อแท้หรือสิ้นหวัง แนะนำว่าให้ฟังเพลงนี้เลย 

เครดิตภาพ : youtube.com

#เพลงฮิต #เพลง90 #ข่าวบันเทิง

Categories
ข่าวบันเทิงดารา

ทำความรู้จักกับ เจฟ วรกมล ซาเตอร์ นักแสดง และศิลปินมากความสามารถจากค่าย Warner Music Thailand

สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้เราก็จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับหนึ่งในนักร้องและนักแสดงที่กำลังได้รับความนิยมอยู่ขณะนี้ ซึ่งต้องบอกเลยว่าเป็นคนที่มากความสามารถทั้งด้านดนตรีและการแสดง เค้าคนนั้นก็คือ เจฟ วรกมล ซาเตอร์ (Jeff Satur) ศิลปินน้องใหม่จากค่าย Warner Music Thailand

เจฟ วรกมล ซาเตอร์ หนุ่มลูกครึ่งไทย-อังกฤษ เป็นนักแสดง แล้วก็นักร้อง เกิดเมื่อวันที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2538 จบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยรังสิต โดยจุดเริ่มต้นในการร้องเพลงเกิดขึ้นในตอนที่เจฟเรียนอยู่ และเริ่มก้าวเข้าสู่วงการบันเทิงในปี พ.ศ. 2556 โดยการเป็นศิลปินในสังกัด กามิกาเซ่ ของเครืออาร์เอส ซึ่งจะเป็นที่รู้จักในชื่อ Jeff Demo Project นั่นเอง เจฟเป็นอีกหนึ่งคนที่มีประสบการณ์ในวงการบันเทิงหลากหลายสาขา ไม่ว่าจะเป็นการร้องเพลง การแต่งเพลง โปรดิวเซอร์ และรวมถึงการแสดงตั้งแต่ภาพยนตร์เรื่องสั้น และซีรีย์ เจฟได้รับรางวัลมากมาย RISING FOREIGN COUPLE OF THE YEAR 2020 จาก VOICE POINT 2021 ประเทศฟิลิปินส์ พ่วงด้วยตำแหน่ง หนุ่ม GQ Popular Vote 2021 

แต่ถึงอย่างนั้น หลายคนก็ยังไม่รู้จักเขาดีพอ จนกระทั่ง เจฟ ซาเตอร์ ได้มีโอกาสมาเล่นซีรีส์วายแนวมาเฟียสุดเข้มข้นเรื่อง KinnPorsche The Series ในบทของ คิม น้องเล็กแห่งตระกูลมาเฟีย ผู้ที่ซึ่งดูสันโดษและเงียบขรึม ในบรรดาลูกชายทั้งสามของตระกูล ทำให้แฟนซีรีส์เริ่มรู้จักและติดตามกันเป็นจำนวนมาก และนอกจากงานด้านการแสดงแล้ว เจฟ ซาเตอร์ (Jeff Satur) ยังเป็นศิลปินของค่าย Warner Music Thailand ค่ายเพลงที่ไร้ขีดจำกัดในการทำงานทางดนตรี ซึ่งในปัจจุบันนี้ เจฟ ได้มีซิงเกิลเป็นของตัวเอง 4 เพลง ซึ่งแต่ละเพลงได้รับความนิยมและมียอดวิวที่สูงมากอีกด้วย

ต้องบอกเลยว่าคาแรคเตอร์ของเจฟในซีรีส์และในชีวิตจริงนั้นแตกต่างกันมาก คาแรคเตอร์ตัวละครคิมในซีรีส์ จะเป็นแนวสุขุม นิ่งๆดูไม่สนใจอะไรฉลาดและรู้ทุกอย่าง ส่วนในชีวิตของเจฟนั้นเป็นคนที่ขี้เล่น ขี้เเกล้ง และชอบสร้างเสียงหัวเราะให้กับคนริบข้างอยู่บ่อยๆ และที่สำคัญ เจฟเป็นคนที่คอยซับพอร์ตเพื่อนๆพี่ๆน้องๆทุกคนอยู่เสมอ

ส่วนตัวแล้วเคยฟังของเจฟ ตั้งแต่ตอนที่อยู่ค่ายกามิกาเซ่แล้ว รู้สึกชอบมากก เสียงละมุน แลดูอบอุ่น หากใครที่ชอบก็หาเวลาว่างไปฟังผลงานเพลงของเจฟกันได้นะคะที่ยูทูปก็มีค่ะ นอกจากผลงานเพลงแล้ว เจฟก็มีผลงานในด้านละครอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องHE SHE IT (2019) ,Ingredients (2020) ,Love Area The Series (2021) ,Love Area The Series Part 2 (2022) 

เครดิตภาพ : dara.com

#ดารานักร้อง #เฟวรกมล #ข่าวบันเทิง

Categories
ข่าวบันเทิงดารา

ดราม่า #มีแม่เมื่อพร้อม #แม่แตงโม หลังประกาศว่าจะได้เงิน 30 ล้าน

สำหรับวันนี้เป็นเรื่องราวที่ต่อยอดจากข่าวใหญ่ที่คนไทยกำลังให้ความสนใจ นั่นก็คือข่าวการเสียชีวิตของคุณ “แตงโม นิดา” ซึ่งตอนนี้ก็มีดราม่าใหม่เกิดขึ้นหลังจากที่คุณแม่ของคุณแตงโมได้ออกมาประกาศว่าให้อภัย 2 คนใน 5 ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์การพลัดตกเรือของคุณแตงโม เพราะเป็นคนดีและจ่ายค่าชดเชย ทั้งที่ในตอนนี้เรื่องราวมันยังอยู่ในช่วงของการสืบหาข้อเท็จจริงอยู่เลย ซึ่งสามารถเข้าไปฟังความคิดเห็นได้ที่ #มีแม่เมื่อพร้อม #แม่แตงโม 

ซึ่งก็ผ่านพ้นมาหลายวันแล้วค่ะสำหรับเหตุการณ์การเสียชีวิตของคุณแตงโม ที่สังคมกำลังตั้งคำถามกันว่าเรื่องนี้มันเป็นอุบัติเหตุจริงหรอ และเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาเราก็เห็นความสามารถในการพยายามสืบค้นข้อมูล กับข้อสันนิษฐานต่างๆมากมาย เพราะหลายคนคิดว่าเรื่องนี้จะต้องมีคนถูกดำเนินคดี และหนึ่งในคนที่ตั้งข้อสันนิษฐานว่าการเสียชีวิตของคุณแตงโมไม่ใช่อุบัติเหตุก็คือ คุณภนิดา หรือคุณแม่ของคุณแตงโมนั่นเองค่ะ ซึ่งคุณแม่เคยประกาศอย่างมั่นใจว่าลูกสาวต้องโดนทำร้ายอย่างแน่นอน และดูสู้เพื่อลูกสาวมากๆ ชาวเน็ตก็ต่างพากันให้กำลังใจ จนกระทั่งวันในวันที่ 14 มีนาคม 2565 ที่ผ่านมา คุณแม่ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการโหนกระแสของคุณหนุ่ม กรรชัย โดยประกาศว่าตนให้อภัยคุณปอและคุณโรเบิร์ตแล้ว 100% เพราะทั้งสองมาขอขมา และโทรมาหาตลอดตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ เขาโทรมาสม่ำเสมอ แม่มองว่าเขาดูจริงจัง จนมีการคุยกันถึงเงินเยียวยาจำนวน 30 ล้านบาท แต่ไม่ได้มีการตกลงกันอย่างจริงจัง เป็นเพียงแค่การคุยกันเบื้องต้นเท่านั้น ส่วนเพื่อนๆของคุณแตงโมอย่างคุณฮิปโปและคุณแอนนา คุณแม่บอกว่าทั้งสองไม่ค่อยมาคุยกับคุณแม่ แต่ชอบไปให้ข่าวเกี่ยวกับคุณแตงโมโดยไม่มาปรึกษาคุณแม่ก่อนเลย โดยเฉพาะพิธีศพของคุณแตงโมที่คุณแม่วางแผนจัดงานไว้หมดแล้ว แต่เขากลับไปให้ข่าวว่าจะเปลี่ยนสถานที่จัดงาน ซึ่งทางคุณฮิปโปเลยออกมาบอกว่าหากคุณแม่ไม่สบายใจจะขอถอนตัวจากการจัดงานในครั้งนี้ จะไม่ไปก้าวก่ายอะไรอีก คุณแม่เลยตอบกลับมาว่า ดีค่ะ เพราะเขามีคนจัดการหน้าที่ตรงนี้อยู่แล้ว ซึ่งตอนนี้คุณแม่ให้อภัยคุณฮิปโปซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของคุณแตงโมเพียง 50% ส่วนคุณแอนนาคุณแม่บอกว่าให้อยู่นิ่งๆไว้ค่ะ และมีการพูดถึงเงินประกันอุบัติเหตุที่คุณแตงโมทำไว้จำนวน 1 ล้านบาท โดยลงชื่อผู้รับผลประโยชน์เป็นลูกบุญธรรมของตัวเอง หรือลูกสาวของคุณกระติกนั่นเอง โดยคุณแม่บอกว่าตนเป็นผู้จัดการมรดกของน้องโม นี่ก็ต้องเป็นมรกดของน้องโม อยู่ที่ว่าคุณแม่จะแบ่งให้เขาหรือไม่ ซึ่งยินดีให้เป็นทุนการศึกษาแต่ไม่ใช่ทั้งหมด และหลังจากรายการได้ออกอากาศไปทางโซเชียลมิเดียเต็มไปด้วยอาหารหมา เพราะทุกคนต่างพากันตามสืบตามหาข้อเท็จจริง แต่คุณแม่มาประกาศว่ายกโทษให้คนที่อยู่ในเหตุการณ์เพราะเงิน 30 ล้าน จนเกิดเป็นกระแสความไม่พอใจในตัวคุณแม่ และมองว่าตกลงคุณแม่อยากได้ความยุติธรรมหรืออยากได้เงิน กลายเป็นประเด็นร้อนแรง และเกิดเป็น #มีแม่เมื่อพร้อม #แม่แตงโม สนั่นทวิตเตอร์กันเลยทีเดียวค่ะ 

เครดิตภาพ. : ผู้จัดการออนไลน์ , Amarin TV

#มีเแม่เมื่อพร้อม #ข่าวแม่แตงโม #ดาราไทย

Categories
ข่าวบันเทิงดารา

ใบเฟิร์น-อัญชสา ตอกกลับ ไม่ต้องขุดให้เสียเวลา ไม่เคยปิดบังเรื่องศัลยกรรม

ยุคนี้ไม่ว่าใครก็สามารถทำศัลยกรรมได้และไม่ใช่เรื่องที่คนอื่นจะมาวิพากษ์วิจารณ์หรือขุดรูปก่อนศัลยกรรมของคนอื่นมาเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาต ไม่ต้องเป็นคนในวงการบันเทิงถูกขุดขึ้นมาแบบนี้ก็หัวร้อน โดยล่าสุดก็มีชาวทวิตเตอร์สายปั่นขุดรูปก่อนศัลยกรรมของสาว “ใบเฟิร์น-อัญชสา มงคลสมัย” นางเอกสาวประจำช่อง ONE31 ผู้โด่งดังจากบท “มุก” ใน “สงครามนักปั้น” ออกมาเผยแพร่ แถมยังพยายามจะแซะกดสาวใบเฟิร์นให้ต่ำลง งานนี้เจ้าตัวจึงไม่ยอมอยู่เฉย ออกมาตอบโต้นักขุดแบบฟาดๆ

ใบเฟิร์น-อัญชสา โต้หมดยุคที่ขุดเรื่องศัลยกรรมมาดิสเครดิตกันแล้ว

ประเด็นดังกล่าวเริ่มขึ้นมาจาก Account หนึ่งในทวิตเตอร์ได้เผยรูปของสาวใบเฟิร์น-อัญชสา ก่อนศัลยกรรม อีกทั้งยังโพสต์เสียๆหายๆ ให้สาวใบเฟิร์นดูแย่และเหยียดเรื่องหน้าตาต่างๆนานา เมื่อดาราสาวไปเห็นเข้าเธอจึงออกมาตอบโต้ โดยการขุดรูปหน้าก่อนศัลยกรรมของเธอโพสต์ลง Facebook ส่วนตัวเสียเลย พร้อมแคปชั่นที่ว่า “ถ้าขุดได้แค่นั้นไม่ต้องขุด เสียเวลา เอานี่ไป หน้าก่อนศัล หามาให้แล้ว” โดยสาวใบเฟิร์นได้ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะที่เธอกำลังเล่นทวิตเตอร์อยู่ เห็นมีคนพยายามเอารูปเก่าสมัยรับปริญญามาลง แล้วเขาก็พิมพ์งงๆไม่รู้จะสื่ออะไร แต่ดูเจตนาโดยรวมเหมือนเขาอยากเอารูปเก่าเรามาลงเพื่อดิสเครดิต พอเห็นก็รู้สึกว่า ไม่ควรจะดิสเครดิตกันด้วยวิธีนี้แล้ว เพราะการศัลยกรรมเป็นเรื่องปกติมาก มันเป็นสิ่งที่เฟิร์นยอมรับอยู่แล้ว เราคิดว่ามันไม่ได้เป็นสิ่งที่ผิดหรือไม่ดีอะไร ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน สาวใบเฟิร์นยังเผยอีกว่า ถ้าหารูปช่วงมหาลัยมาให้ดูจริงๆมีเด็ดกว่านั้นอีก เดี๋ยวลงให้ดูเองก็ได้ เพราะเราพยายามทำให้เรื่องนี้ให้เป็นเรื่องปกติจริงๆ เราไม่อยากให้ใครรู้สึกว่า การทำศัลยกรรมต้องมาหลบๆ ซ่อนๆ ทำมาแล้วสวยก็ต้องมั่นใจ  ถึงแม้ใครจะบอกว่า สวยเพราะศัล แต่ก็ยังมีคำว่า สวย จริงๆรูปนั้นเป็นรูปสมัยเด็ก มีแก้มป่องๆ พอเห็นบางคนก็บอกว่า ทำมาเยอะนะ เพราะรูปหน้าเปลี่ยนไป โบท็อกซ์แน่เลย แต่จริงๆในรูป คือ ทำแค่ตากับจมูก 2 อย่าง แม้ว่าจะแก้หลายรอบจริง เพราะไม่ได้ทำรอบเดียวจบสวย เรื่องแก้มกับรูปหน้ามันเปลี่ยนไปตามวัย ปัจจุบันพอใจมาก ไม่คิดจะแก้หรือทำอะไรเพิ่มแล้ว ภูมิใจกับหน้าตัวเอง บอกเลยว่าหมอเก่งมากค่ะ ขอยกเครดิตให้หมอ หลังจากขุดรูปเก่าขึ้นมา Account ในทวิตเตอร์นั้น มีฟีดแบคอย่างไรไม่รู้ เนื่องจากสาวใบเฟิร์นจัดการบล็อกไปเรียบร้อย เพราะเธอไม่อยากทำให้เรื่องมันยืดยาว ดูทรงแล้วน่าจะคุยกันไม่รู้เรื่อง แอบสงสัยเหมือนกันว่า เขามาดิสเครดิตเราทำไม แต่คาดเดาว่าน่าจะเป็นเรื่องของความเห็นที่ไม่ตรงกัน ถ้าเป็นเรื่องนั้นสิ่งที่ควรทำ คือ พูดคุยในหัวข้อนั้นมากกว่ายกเรื่องส่วนตัวของคนอื่นมาเปิดเผย

สาวใบเฟิร์น-อัญชสา ยังเผยว่า เธอก็เคยโดนแซะเรื่องทำศัลยกรรมมาเยอะ แต่ไม่ได้เครียดรู้สึกตลกมากกว่า  เพราะมันเป็นเรื่องที่เราไม่ได้ปิดอะไร ใครถามว่าทำหมอไหนก็แนะนำ สงสัยว่ายุคนี้แล้ว การทำศัลยกรรมเป็นเรื่องปกติมาก คนธรรมดาก็ทำกัน มองว่าไม่ได้เป็นเรื่องผิด ถ้าทำแล้วสวยขึ้น มั่นใจในตัวเองก็ดี

เครดิตภาพ : sanook.com

#ใบเฟิร์น-อัญชสา #ดาราศัลยกรรม #ข่าวบันเทิงไทย

Categories
ข่าวบันเทิงดารา

สามีหนิง-ปณิตา ออกโรงปกป้องเมีย

เรียกได้ว่าเป็นดราม่ากันมาอย่างยาวนานสำหรับความสัมพันธ์แก๊ง 3 นางร้ายอย่าง ‘หนิง-ปณิตา ธรรมวัฒนะ’ ‘กระแต-ศุภักษร เรืองสมบูรณ์’และ ‘เป้ย-ปานวาด เหมมณี’ซึ่งก็ยังไม่ยอมเปิดเผยเสียทีว่า อะไรคือสาเหตุของการทะเลาะเบาะแว้งจนตัดเพื่อนกันครั้งนี้ ทำให้ชาวเน็ตเดากันไปต่างๆนานา ล่าสุดสาวหนิง-ปณิตาได้ออกรายการ ‘แฉ’ ของ ‘มดดำ’ เพื่อเปิดใจว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างเธอกับเป้ย-ปานวาด แต่สาวหนิงก็ไม่ได้เล่าทั้งหมด โดยให้เหตุผลว่า พูดไปจะกระทบหลายคน ขอยอมโดนด่าดีกว่า

แม้ว่าสาวหนิง-ปณิตาจะออกมาพูดอย่างเปิดอกว่า ยอมโดนด่าดีกว่า แต่เมื่อเจอกระแสทัวร์ลงเข้าจริงๆเจ้าตัวก็โพสต์เศร้าอย่างน้อยใจผ่าน Instagram ส่วนตัวว่า เธอเจ็บทุกครั้งที่ได้อ่านความคิดเห็นของหลายคนที่ด่า ทั้งที่พวกเขาไม่รู้จักเราเลย เพียงแค่อ่านข่าว ไม่รู้ความจริงแล้วเลือกจะเกลียด ไม่ถามสักคำว่าเรื่องจริงเป็นยังไง แม้เพื่อนๆจะบอกว่า อย่าไปสนใจอย่าไปอ่าน เดี๋ยวมันก็ผ่านไป แต่พอมีคนแคปส่งมาให้ดูที่คนด่าเรา บอกเลยว่าเสียใจมาก ถึงหนิงจะดูเป็นคนแรงๆร้ายๆแต่ที่จริงไม่ใช่เลย เจ็บเป็นร้องไห้เป็น ไม่คิดว่าการรักเพื่อนมากเกินไปจะกลับกลายเป็นหอกทิ่มแทงเราแบบนี้ ที่มาโพสต์ไม่ได้อยากดึงดราม่าขอกำลังใจ แต่วันนี้ยอมรับว่าอ่อนแอจริงๆค่ะ หลังจากสาวหนิงโพสต์ไปก็มีเพื่อนๆในวงการหลายคนเข้ามาให้กำลังใจ รวมถึงแฟนคลับที่รักเธอด้วย หนึ่งในนั้นก็มีคุณสามีอย่าง ‘จิน-จรินทร์ ธรรมวัฒนะ’ ที่มาคอมเม้นต์ให้กำลังใจว่า ช่างมันอย่าไปสนใจ ใครจะว่าอะไรยังไงหนิงก็คือแม่ที่ดีที่สุด เป็นภรรยาที่ดีที่สุดและเพื่อนที่ดีที่สุดสำหรับหลายคนที่เห็นค่าเรา ล่าสุดจิน-จรินทร์ สามีของหนิง-ปณิตาก็ได้ออกมาโพสต์ทางไอจีส่วนตัวเกี่ยวกับประเด็นนี้ว่า อยากจะขอเขียนอะไรสักหน่อย ครอบครัวเราตอนนี้มีความสุขมาก เพราะมีแต่คนรอบข้างที่ดีที่รักเรา โคตรดีใจเลยที่คนรอบข้างเป็นคนจริงใจไม่ปั้นหน้าใส่กัน มีแค่นี้ก็พอแล้ว ใครทำอะไรไว้มันรู้ดีแก่ใจ แค่นี้จบนะ #เพื่อนกูเยอะ#ญาติกูดี#อย่าทำให้เมียกูเครียด 

โพสต์ไปได้ไม่นานยังไม่ทันได้รับกระแสใดๆ หนุ่มจิน-จรินทร์ก็ตัดสินใจลบโพสต์นี้ไปเสียแล้ว อาจเพราะกลัวว่าจะเป็นกระแสดราม่าให้ภรรยาโดนหนักกว่าเดิมก็เป็นได้ ซึ่งคนที่หนุ่มจิน-จรินทร์พูดถึงจะเป็นใครนั้น ต้องตามลุ้นกันต่อไป และขอเป็นกำลังใจให้สาวหนิง-ปณิตาก้าวข้ามดราม่านี้ไปได้ด้วยดี

เครดิตภาพ : khaosod.co.th, sanook.com

#หนิง-ปณิตา #สามีหนิง-ปณิตาปกป้องเมีย #ข่าวบันเทิงไทย

Categories
ข่าวบันเทิงดารา

เสือ-เสฏกานต์ แจงดราม่า ไม่ยอมพาแม่ไปหาหมอ

หลังจากมีดราม่าถึงขั้นขึ้นโรงขึ้นศาลกันระหว่างคู่แม่ลูก ‘เสือ-เสฏกานต์ ศุขพิมาย’ และ “กานต์-วิภากร ศุขพิมาย” ภรรยาของ “เสก โลโซ” หรือ “เสกสรรค์ ศุขพิมาย” การก็ได้โพสต์ลงโซเชียลให้เป็นกระแสอีกครั้งว่า ตนเองรู้สึกน้อยใจเสือมาก ทั้งชีวิตยอมลูกมาตลอด ทั้งยังทิ้งท้ายว่า อยากให้ลูกพาไปหาจิตแพทย์เหมือนกัน แต่ลูกไม่ยอมพาไป ล่าสุดเสือก็ได้ออกมาโพสต์ชี้แจงประเด็นดราม่าดังกล่าวแล้ว

เสือ-เสฏกานต์ ได้โพสต์ลงในไอจีส่วนตัวว่า ก่อนหน้านี้พยายามบอกให้แม่ไปพบจิตแพทย์หลายครั้งแล้ว แต่เป็นทางแม่ที่ไม่ยอมไปเอง ทั้งที่เสนอตัวจะพาไปด้วยซ้ำและเสือไม่เห็นด้วยกับการที่แม่มาโพสต์ป่าวประกาศให้คนอื่นรู้ โดยที่ยังไม่ได้คุยกันให้ดีก่อนแบบนี้ ถ้าอยากไปทำไมไม่บอกกันดีๆ ให้คนอื่นรู้แล้วเป็นข่าวทำไม ยังมีเรื่องของโรงพยาบาลที่ความเห็นไม่ตรงกัน แม่อยากไปโรงบาลเอกชน แต่โดยส่วนตัวแล้ว เสือไว้ใจโรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยามากกว่า เพราะก่อนหน้านี้ก็เคยพาพ่อไปรักษา เห็นวิธีการรักษาของเขาดูละเอียดใส่ใจ เคยเสนอแม่ไปแล้ว แต่แม่ไม่ยอมไป อ้างว่าพ่อไม่ให้ไปที่นี่ แต่เมื่อตนเอาเรื่องนี้ไปคุยกับพ่อ พ่อก็บอกว่าไม่ได้ห้ามอะไร ตรงส่วนที่แม่โพสต์ว่า แม่ยอมลูกมาตั้งแต่เกิด เสือก็ขอให้ครั้งนี้แม่ยอมไปตรวจโรงพยาบาลที่เสือเลือกจริงๆ ทางด้านอาการป่วยทางจิตของแม่ หนุ่มเสือบอกว่าสังเกตุเห็นมาหลายปีแล้วว่าแม่ทำตัวไม่ปกติ ทั้งเรื่องงาน การพูดคุย การใช้ชีวิตและการตัดสินใจ รวมถึงอารมณ์ต่างๆ ซึ่งมั่นใจว่าเสือเองไม่ใช่คนเดียวที่สังเกตุเห็นแน่นอน ครอบครัวและคนใกล้ชิดก็รู้ดีแต่ไม่มีใครกล้าพูดเท่านั้นเอง ทางด้านสาวกวางลูกสาวอีกคนของเสก โลโซก็ได้ออกมาเสริมประเด็นในเรื่องนี้ว่า การที่คนคนหนึ่งป่วยไม่ใช่เรื่องน่าอาย การที่เราเกิดมาเป็นมนุษย์ก็ต้องมีเรื่องที่ทำให้เราเจ็บป่วยและเปลี่ยนไปอยู่แล้ว ใครที่ใช้คำว่า ‘ป่วย’ เหยียดคนอื่นเป็นเรื่องไม่ถูกต้องเลย เพราะคนแบบนี้ทำให้คนที่ป่วยไม่กล้ายอมรับว่าป่วยและอายจนไม่อยากไปรักษา ทำให้คนรอบตัวต้องเจ็บปวดไปด้วย ถ้าหากเรายอมรับเรื่องอาการเจ็บป่วยของเราได้และรักษา ใจดีกับตัวเองหน่อย จิตใจของเราจะแข็งแรงขึ้นและเราจะรักคนที่เรารักได้อย่างเฮลตี้มากขึ้น กวางยังเล่าประสบการณ์ในอดีตว่า ตัวเองเคยป่วยเป็นโรคซึมเศร้า ซึ่งกวางก็พยายามทำให้ตัวเองดีขึ้นและมีพี่เสือคอยซัพพอร์ตอย่างดี กวางไม่ใช่คนของสังคม แต่เป็นคนที่บังเอิญเกิดมาเป็นลูกของนักดนตรีที่มีความสามารถและพ่อที่ดีที่สุด กวางไม่ชอบอยู่ในสายตาของสังคมจึงไม่ได้โซเชียลมีเดีย ไม่อ่านอะไรและปิดคอมเม้นต์ด้วย แต่ในกรณีนี้คงหนักมาก สาวกวางจึงต้องออกมาโพสต์จริงจังแบบนี้

กวางยังเล่าประสบการณ์ในอดีตว่า ตัวเองเคยป่วยเป็นโรคซึมเศร้า ซึ่งกวางก็พยายามทำให้ตัวเองดีขึ้นและมีพี่ชายแสนดีอย่างหนุ่ม เสือ-เสฏกานต์ คอยซัพพอร์ต กวางไม่ใช่คนของสังคม แต่เป็นคนที่บังเอิญเกิดมาเป็นลูกของนักดนตรีที่มีความสามารถและพ่อที่ดีที่สุด กวางไม่ชอบอยู่ในสายตาของสังคมจึงไม่ได้โซเชียลมีเดีย ไม่อ่านอะไรและปิดคอมเม้นต์ด้วย แต่ในกรณีนี้คงหนักมาก สาวกวางจึงต้องออกมาโพสต์จริงจังแบบนี้

เครดิตภาพ : tnnthailand.com, sanook.com, amarintv.com

#เสือ-เสฏกานต์ #แจงข่าวไม่พาแม่ไปหาหมอ #ข่าวบันเทิงไทย

Categories
ข่าวบันเทิงดารา

ปราง-กัญญ์ณรัณ เผยวินาทีถูก โต้ง ทูพี ขอแต่งงาน

เป็นอีกหนึ่งคู่รักที่ทำให้เหล่าแฟนคลับสมหวัง สำหรับสาว “ปราง-กัญญ์ณรัณ วงศ์ขจรไกล” และหนุ่ม “โต้ง ทูพี” หรือ “พิทวัส พฤกษกิจ” ที่ล่าสุดได้มีการอัพภาพไอจีตอนที่ทั้งคู่ไปเที่ยวนิวยอร์กด้วยกันพร้อมข่าวดีว่า หนุ่มโต้ง ทูพี ได้ขอสาวปรางแต่งงานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งแน่นอนว่า เธอตอบตกลงและเมื่อไม่นานมานี้ สาวปรางก็ได้ออกมาเผยถึงวินาทีแสนประทับใจที่แฟนหนุ่มได้คุกเข่าขอเธอแต่งงาน

ปราง-กัญญ์ณรัณ เซอร์ไพรส์มาก ไม่เอะใจเรื่องขอแต่งงานเลย

สาวปราง-กัญญ์ณรัณเล่าว่า เรื่องที่หนุ่มโต้ง ทูพีขอแต่งงานนั้น อยู่นอกเหนือความคาดหมายจริงๆ เพราะที่ผ่านมาเธอก็ไม่เคยเร่งรัด อยากให้เขาทำงานที่ชอบไปเรื่อยๆ อีกทั้งทริปไปนิวยอร์กครั้งนี้ เป็นทริปเร่งรีบกระชั้นชิด โดยทีแรกนั้นหนุ่มโต้ง ทูพีได้ชวนสาวปรางไปนิวยอร์กด้วยกัน เพราะมีคอนเสิร์ตและระยะเวลาที่ไปเพียง 10 วันเท่านั้น เป็นการไปทำงานล้วนๆ เพราะนอกจากชวนไปทัวร์คอนเสิร์ตด้วยกันแล้วหนุ่มโต้ง ทูพียังชวนสาวปรางมาถ่ายเอ็มวีด้วย ตอนนั้นสาวปรางเผยว่า ตัดสินใจไปเพราะคิดว่าไปแล้วคุ้มทั้งได้เที่ยวและได้งาน เป็นครั้งแรกที่สาวปรางได้ไปนิวยอร์กด้วย ช่วงนั้นสาวปรางเผยว่า เหน็ดเหนื่อยมากเลยทีเดียว คุยกันแต่เรื่องงาน ก่อนจะขึ้นมาถึงสถานที่ขอแต่งงานได้ ตอนนั้นสาวปรางตัดสินใจว่า เธอจะไม่ขึ้นไปด้วยซ้ำ เพราะข้างบนอากาศหนาวมาก แต่หนุ่มโต้ง ทูพีบอกว่า ขึ้นไปเถอะ ข้างบนสวยนะ อยากถ่ายเอ็มวีด้วย อีกอย่างพี่นานาก็ซื้อตั๋วจองที่ไว้ให้แล้ว สาวปรางจึงตกลงลองขึ้นไปซักครั้ง และแอบเอะใจอยู่ว่า ทำไมพี่นานาต้องถือกล้องขึ้นมาด้วย ซึ่งพี่นานาก็ตอบกลับไปว่า พี่อยากเก็บภาพสวยๆให้ วินาทีที่หนุ่มโต้ง ทูพีคุกเข่าขอแต่งงานซาบซึ้งมาก จำได้ว่าหนุ่มโต้งพูดเป็นประโยคยาวมาก แต่หูดับไปแล้วเพราะตื่นเต้น ได้แต่ตอบตกลงไปก่อน ทางด้านแหวนแต่งงานที่หนุ่มโต้ง ทูพีให้มานั้นก็มีราคาแพงมาก จนสาวปรางไม่กล้าใส่ไปไหนมาไหนกลัวหายเลยทีเดียว สาวปรางยังให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับทางด้านครอบครัวของเธอว่า หลังจากหนุ่มโต้งขอแต่งงานเรียบร้อยแล้ว เธอได้ถามคำถามแรกกับเขาว่า ได้ขอพ่อแม่หรือยัง เดี๋ยวพ่อแม่จะตกใจ ถ้าลงรูปว่าขอแต่งงานแล้ว ตอนนั้นหนุ่มโต้งก็บอกว่า ขอพ่อแม่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเธอเองก็ไม่แปลกใจเท่าไหร่ เพราะช่วงนี้เขาเข้าหาพ่อแม่บ่อย 

สุดท้ายนี้สาวปราง-กัญญ์ณรัณยังให้สัมภาษณ์ถึงงานแต่งที่วางแผนไว้ว่า จะรอให้พ้นปีนี้ไปก่อน  ต้องรอดูฤกษ์อีกทีด้วย หนุ่มโต้งอยากจัดใหญ่ๆ เพราะเขามีเพื่อนฝูงเยอะ แต่เธออยากจัดแบบเล็กๆเน้นครอบครัวและคนสนิท ส่วน Theme คิดเอาไว้แล้วว่า อยากแต่งงานที่ทะเล 

เครดิตภาพ : thaipost.net, sanook.com

#ข่าวบันเทิงไทย #ปราง-โต้ง #ดารานักร้อง

Categories
ข่าวบันเทิงดารา

อั้ม-พัชราภา ค้นพบความชอบใหม่ เริ่มสะสมกระบองเพชรหลักแสน

หลังจากช่วงโควิด-19 ระบาดหนักจนทำให้เหล่าคนในวงการบันเทิงพากันกักตัวไม่ออกไปไหน ในที่สุดก็เริ่มเปิดประเทศและมีงานอีเวนท์ให้ได้เห็นหน้าข้าตากันเสียที สำหรับสาว “อั้ม-พัชราภา ไชยเชื้อ” นักแสดงสาวหน้าสวยเองก็ได้มาออกงานอีเวนต์ให้นักข่าวได้สัมภาษณ์ พร้อมอัพเดตชีวิตว่า ช่วงนี้เธอเป็นอย่างไรบ้าง โดยสาวอั้มก็ได้พูดถึงเรื่องของงานอดิเรกใหม่อย่างการสะสมต้นกระบองเพชรราคาแพงและสถานะความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับแฟนหนุ่มไฮโซพก

อั้ม-พัชราภาเผยชอบต้นกระบองเพชรมาก คุยกับมันทุกวัน

สาวอั้ม-พัชราภา ได้เล่าถึงที่มาของการสะสมต้นกระบองเพชร ซึ่งเป็นงานอดิเรกใหม่ของเธอว่า ทีแรกก็ไม่ได้ชอบต้นกระบองเพชรเท่าไหร่ เพราะมันมีหนาม มีขน แต่พอเพื่อนเอามาให้เป็นของขวัญก็รู้สึกชอบขึ้นมาทันที โดยต้นกระบองเพชรแบบที่ชอบนั้น จะเป็นแบบผิวเรียบๆไม่มีหนาม ไม่มีขน มีดอกสีชมพูสวยๆน่ารัก ซึ่งราคาของต้นกระบองเพชรแบบที่ชอบก็สูงอยู่พอสมควร ต้นที่อยากได้ก็มีหลายราคาตั้งแต่ 40,000 บาท 100,000 บาท 200,000 บาท แพงสุดที่เคยซื้อมา คือ 250,000 บาทและหาซื้อยากพอสมควร เพราะต้องการต้นพ่อต้นแม่มาเพาะต่อ จึงขอความช่วยเหลือให้เพื่อนช่วยแนะนำให้ สาวอั้ม-พัชราภา ยังเล่าต่ออีกว่า ตั้งแต่ได้ต้นกระบองเพชรมาก็ชอบมาก ชอบดู ชอบคุยกับต้นกระบองเพชรทุกวัน บางคนถามว่าทำไมไม่ทำเรือนกระจกไว้สำหรับเพาะต้นกระบองเพชร สาวอั้มก็ตอบว่า เพราะเรือนกระจกร้อนและเธอไม่ชอบอากาศร้อนเลยวางไว้ที่ระเบียงห้องแทน อยากดูตอนไหนก็เดินออกมาดู ล่าสุดก็เห่อต้นกระบองเพชรมากถึงขั้นทำตู้ไว้สำหรับใส่ต้นกระบองเพชรโดยเฉพาะจะได้ดูได้บ่อยๆ หลังจบเรื่องต้นกระบองเพชรนักข่าวก็สัมภาษณ์สาวอั้มเกี่ยวกับความสัมพันธ์ช่วงนี้ ระหว่างเธอและหนุ่มไฮโซพกว่า พร้อมจะเข้าวิวาห์เหมือนคู่อื่นเมื่อไหร่ โดยสาวอั้มได้ตอบอย่างชัดเจนว่า สำหรับความสัมพันธ์ของเธอและไฮโซพกนั้น อย่านับว่าคบกันมาสี่ปีแล้ว เพราะสี่ปีคือตั้งแต่เริ่มรู้จักกันยังไม่สนิทกันเลย ช่วงที่คบกันยังไม่ถึงสี่ปีและเรื่องแต่งงานคิดว่า ดูกันไปเรื่อยๆ ถ้าอีกฝ่ายคิดจะเซอร์ไพรส์ยังไงก็จับได้อยู่แล้ว ช่วงนี้ก็ได้เจอกันไม่บ่อยเท่าไหร่ เพราะเขาเองก็กักตัวเหมือนกัน จะมีนัดเจอกันบ้างที่ซูเปอร์มาร์เก็ต นอกจากนี้ นักข่าวยังถามถึงวันเกิดที่ผ่านมาในวันที่ 5 ธันวาคมของสาวอั้มว่า หนุ่มไฮโซพกให้อะไรเป็นของขวัญวันเกิดบ้าง ทางด้านสาวอั้มจึงตอบว่า เธอคาดเดาไว้ว่าเขาจะให้กระเป๋าซึ่งถือก็มีเยอะอยู่แล้ว แต่พอเปิดกล่องออกมาชั้นแรกก็เจอช็อกโกแลตที่ชอบกิน ชั้นที่สองก็ดันเจอช็อกโกแลตอีก ส่วนในชั้นสุดท้ายเป็นกำไรราคาเกือบล้าน ที่แม้เธอจะมีแล้วแต่ไฮโซพกก็อยากให้เธอมีไว้ใส่เยอะๆ

เรียกได้ว่าชีวิตแฮปปี้จนแฟนๆหายห่วงกันเลยทีเดียว สำหรับสาวอั้ม-พัชราภา ที่มีทั้งกระบองเพชรที่ชอบและแฟนหนุ่มที่รักคอยอยู่เคียงข้างในทุกๆวัน ก็ต้องมารอลุ้นกันว่า เมื่อไหร่คู่ของสาวอั้มจะได้เข้าประตูวิวาห์เสียที

เครดิตภาพ : khaosod.co.th, brighttv.co.th

#กระบองเพชร #ข่าวบันเทิงไทย#อั้ม พัชราภา

Categories
ข่าวบันเทิงดารา

ป๊อก-ภัสสรกรณ์ เผยทรงผมหลังผ่าตัดใหญ่ อยากให้ทุกคนได้ข้อคิดจากเรื่องนี้

ป๊อก-ภัสสรกรณ์ จิราธิวัฒน์” ได้เล่าประสบการณ์เฉียดตายอย่างไม่ทันตั้งตัว ในคลิปทางช่องยูทูปส่วนตัว Mindset TV ซึ่งพาดหัวคลิปว่า “ตกใจทั้งบ้าน! หมอสั่งผ่าตัดสมองด่วน | ป๊อกกี้ on the run SS4 EP50” โดยเจ้าตัวเล่าว่า ช่วงหนึ่งมีอาการปวดหัวเหนื่อยล้าอยู่เป็นพักๆ จึงตัดสินใจไปพบหมอเพื่อตรวจอย่างละเอียด จนไปพบว่าตนมีเนื้องอกในสมองขนาดเท่าลูกปิงปอง และต้องทำการผ่าตัดโดยทันที


ประสบการณ์ที่ทำให้ ป๊อก-ภัสสรกรณ์ ต้องทบทวนการใช้ชีวิตอีกครั้ง

เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2564 ทางช่อง Mindset TV ของหนุ่มป๊อก-ภัสสรกรณ์ ได้ลงคลิปเล่าประสบการณ์ของตัวหนุ่มป๊อกที่ช่วงหนึ่งมีอาการเจ็บป่วยหูอื้อ นอนไม่หลับ อ่อนแรงเป็นช่วงๆ อยู่เกือบเดือน ทีแรกอาการเป็นๆหายๆ แต่หลังๆเริ่มหนักขึ้น พยายามไปพบหมอหลายครั้งก็ไม่พบสาเหตุของอาการ จน “สุทธิเกียรติ จิราธิวัฒน์” คุณพ่อของหนุ่มป๊อกได้แนะนำหมอโรคประสาทให้ และผลตรวจจากเครื่องสแกนสมองก็ทำให้ทั้งคุณหมอกับหนุ่มป๊อกต้องตื่นตกใจ จนต้องรีบส่งตัวหนุ่มป๊อกเข้าห้องผ่าตัดโดยทันที  เพราะพบว่ามีเนื้องอกในสมองที่ใหญ่เกือบเท่าลูกปิงปองอยู่ ซึ่งการผ่าตัดของหนุ่มป๊อกเป็นไปได้ด้วยดี แม้ว่าก้อนเนื้องอกที่อยู่ในสมองจริงจะใหญ่เท่าลูกเทนนิสก็ตาม โดยภายในคลิปดังกล่าว หนุ่มป๊อกยังเล่าความรู้สึกก่อนช่วงผ่าตัดว่า เครียดมาก เพราะหมอบอกว่า เนื้องอกชิ้นนี้อาจเป็นอาการของมะเร็งสมองระยะสุดท้าย ถึงจะผ่าตัดออกมาได้ก็อาจมีชีวิตอยู่ไม่เกินสองปี แต่ผลลัพธ์สุดท้ายกลับไม่ได้รุนแรงมากนัก เพียงผ่าตัดออกก็ปลอดภัยแล้ว ยังอยู่ได้อีกนาน โดยคุณหมอได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า นี่เป็นอาการที่พบได้ส่วนใหญ่ในเด็ก ไม่มีมีอันตรายมาก ซึ่งเป็นเคสน้อยมากๆที่จะเกิดกับผู้ใหญ่ อีกทั้งเคสของหนุ่มป๊อกเองก็เป็นรายแรกๆของประเทศไทยเลยทีเดียว หลังจากผ่าตัดเรียบร้อยแล้ว หนุ่มป๊อกได้พักฟื้นที่โรงพยาบาลจนหายดีแล้วกลับมาทำคลิปแชร์ประสบการณ์การผ่าตัดให้ทุกคนได้รู้กัน โดยล่าสุดวันนี้ หนุ่มป๊อก-ภัสสรกรณ์ ก็ได้โพสต์ทางไอจีส่วนตัว พร้อมกับภาพทรงผมใหม่ว่า ที่ออกมาแชร์ประสบการณ์ส่วนตัวที่เพิ่งเกิดขึ้นเพราะเขาเองก็ตกใจมากๆ ไม่เคยคิดว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะเกิดขึ้นกับตัวเองและครอบครัวเร็วขนาดนี้ จากการผ่าตัดครั้งนี้ทำให้ผมเห็นถึงความสำคัญของอะไรหลายหลายอย่างในชีวิต ไม่คิดว่านี่คือเรื่องน่าอาย แต่คิดว่าการที่ได้ออกมาเล่าสู่กันฟังจะเป็นประโยชน์ให้หลายท่าน หวังว่าเรื่องราวนี้จะเป็นข้อคิดในการใช้ชีวิตให้กับทุกคน เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นทำให้รู้แล้วว่า ชีวิตไม่มีอะไรแน่นอน แถมยังฝากให้ใครที่ยังไม่ได้ดูไปลองดูคลิปกันด้วย และยังแอบติดตลกด้วยว่าทรงผมนี้คุณหมอให้มา

เรียกว่าเล่นทำเอาหลายคนเป็นห่วงกันเลยทีเดียวและโชคดีที่อาการไม่หนักเท่าที่คิด อย่างที่หนุ่มป๊อก-ภัสสรกรณ์ ได้บอกไปว่า ชีวิตเราอะไรก็เกิดขึ้นได้ ขอให้ทุกคนมีความสุขมากๆและเห็นความสำคัญของคนรอบข้าง ก่อนที่จะไม่มีโอกาสหรือโชคดีแบบหนุ่มป๊อก

เครดิตภาพ : siamrath.co.th, static.thairath.co.th, thaiza.com

#ข่าวบันเทิงไทย #การผ่าตัด #ป๊อก-ภัสสรกรณ์

Categories
ข่าวบันเทิงดารา

ตู่ ปิยวดี เป็นลมหัวกระแทกพื้น ทำเอามาวินช็อคกลัวเมียตาย

หลังจากห่างหายหยุดอัพไอจีไปแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยเสียนาน จู่ๆสาว ‘ตู่ ปิยวดี มาลีนนท์’ ผู้จัดละครชื่อดัง ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีอย่างแพร่หลายสำหรับคนในวงการบันเทิง ก็กลับมาพร้อมกับโพสต์แคปชั่นชวนช็อคและรูปใส่ชุดคนไข้นอนบนเตียงโรงพยาบาล เผยว่าตัวเองกำลังแอดมิดอยู่ที่โรงพยาบาล 

ตู่ ปิยวดี เผยต์เอ็นดูสามี เป็นห่วงกลัวเมียตาย

อุบัติเหตุครั้งนี้ เกิดจากสาวตู่ ปิยวดี แพ้ยาจนความดันตก มีอาการโลกหมุน 38 ตลบ เสียหลักวูบล้มลงพื้นไปกะทันหัน ได้รับบาดเจ็บหัวกระแทกพื้นอย่างรุนแรง ส่งผลให้หินปูนในหูหลุด อาการหนักจนสามีอย่างหนุ่ม ‘มาวิน ทวีผล’ เป็นห่วงเกือบร้องไห้กลัวเมียตาย ซึ่งตอนนี้หมอเองก็พยายามจะเอาหินปูนในหูกลับมาให้เข้าที่เข้าทาง และเนื่องจากอาการยังไม่ดีขึ้นนักจึงยังกลับบ้านไม่ได้ เมื่อสาวตู่ ปิยวดี โพสต์เรื่องนี้ลงไอจี มีเหล่าแฟนคลับและเพื่อนๆในวงการบันเทิงหลายคน คอมเม้นท์ให้กำลังใจมากมาย ซึ่งไม่กี่วันต่อมาหลังจากอาการดีขึ้นระดับนึง สาวตู่ ปิยวดี ได้โพสต์ถึงเรื่องราวประทับใจบอกเล่าเหตุการณ์ย้อนหลังในตอนที่เธอล้มหัวกระแทกพื้นว่า ตอนนั้นสามีอย่างมาวินเองก็อยู่ด้วย สามีของเธอตกใจมาก เพราะสาวตู่ ปิยวดี เล่นสลบกลางอากาศแบบล้มทั้งยืน อยู่ดีๆก็ฟุบล้มลงไปเลยและหัวกระแทกแรงมาก ทำเอามาวินช็อคไม่รู้จะทำอย่างไร ในใจคิดแค่ว่ากลัวภรรยาจะตาย

ซึ่งในโพสต์ล่าสุดสาวตู่ ปิยวดี ได้ใส่แคปชั่นแสดงความเอ็นดูสามีสุดๆว่า ‘โถ เอ็นดูสามีกลัวเมียตาย’ พร้อมกับรูปภาพแชทไลน์กลุ่มที่น้องของสาวตู่บอกว่า ฟังวินแล้วตกใจเลย พี่ตู่เป็นลมสลบไป ซึ่งสาวตู่ก็ได้ตอบว่า วินตกใจมาก เพราะสลบนานกลัวพี่ตาย น้องของสาวตู่ยังชงให้อีกว่า รักมาก ดูออก และหนุ่มวินก็ได้มาตอบข้อความนี้ว่า กลัวนางตายจริงๆ จะร้องไห้เลยตอนนั้น  เมื่อได้อ่านข้อความจากโพสต์ของสาวตู่ ปิยวดีแล้ว บรรดาแฟนคลับและคนในวงการบันเทิงก็ตามมาเม้นอย่างเอ็นดูหนุ่มมาวินไม่แพ้กัน อีกทั้งยังร่วมส่งกำลังใจให้สาวตู่กลับมาหายดีไวๆ

เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งโมเมนต์น่ารักๆ ของคู่รักมาราธอนแห่งวงการบันเทิงอย่างสาวตู่ ปิยวดี และหนุ่มมาวิน ซึ่งเชื่อว่า หากตอนนั้นใครอยู่ในจุดเดียวกับหนุ่มมาวินก็คงช็อคไม่ต่างกัน ยังดีที่หนุ่มมาวินเรียกรถพยาบาลทันไม่สติหลุดไปเสียก่อน และตอนนี้สาวตู่ ปิยวดีเองก็ปลอดภัยดีแล้ว เหลือแค่รอเวลารักษาตัวให้หินปูนกลับมาเข้าที่เข้าทางก็จะสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ ส่วนทางเราเองก็ขอเป็นกำลังใจให้สาวตู่ ปิยวดี รีบหายดีไวๆ อย่าปล่อยให้คุณสามีเป็นห่วงนานนัก เดี๋ยวเจ้าตัวจะร้องไห้เข้าจริงๆ

เครดิต : www.thethaiger.com / www.thaipost.net

#ตู่ ปิยวดี #มาวิน #ข่าวบันเทิงไทย